ความจริงการกลับออกมาจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ พร้อมผลเสมอก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว แต่มันก็ยังเสียดายไม่หายที่ชัยชนะหลุดลอยไปในนาทีสุดท้ายของช่วงทดเจ็บแบบนั้น (WTF) !!!
1. โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่ได้ใช้แผนพิเศษอะไร และก็ไม่ได้ส่งใครไปประกบ เอแด็น อาซาร์ แบบไปไหนไปด้วย แถมวางระบบ 4-2-3-1 โดยให้ ฆวน มาต้า ลงเล่นเป็นหน้าต่ำขนาบข้างด้วยตัวจี๊ดอย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เหมือนต้องการจะเปิดเกมแลกด้วยซ้ำ
2. แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามเน้นเกมรุกตรงริมเส้น แต่บอลมักไปตายก่อนถึงพื้นที่สุดท้าย ขณะเกมรับถอยลงไปคุมพื้นที่ในแดนตัวเองพลางใช้ลูกหนักหยุดเจ้าถิ่นที่คล่องกว่า รูปเกมโดยรวมในครึ่งแรกถือว่าไม่เลวร้ายอะไรมาก แม้จะโดนนำไปก่อนก็ตาม
3. เป็นอีกครั้งที่ฟอร์มการเล่นของพลพรรคปีศาจแดงในครึ่งหลังดีกว่าครึ่งแรกแบบผิดหูผิดตา เมื่อพวกเขาพยายามเร่งเกมรุกทะลุทะลวงมากขึ้น ขยันมากขึ้น กล้าเล่นมากขึ้น และเล่นกันเร็วมากขึ้น มันจึงกดดันคู่แข่งได้มากขึ้น
สังเกตได้จาก โรเมลู ลูกากู ที่ครึ่งแรกแทบไม่มีบทบาท พอครึ่งหลังมีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้นอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับ ฆวน มาต้า ที่กล้าพลิกบอลไปข้างหน้ามากขึ้น
มิซ้ำหลังจากตีเสมอได้สำเร็จ พวกเขาก็ยังเล่นเหมือนเดิม ไม่ได้ถอยไปตั้งรับจนยิงแซงกลับมาเป็น 2-1 ขณะที่ เชลซี เหมือนจะไม่มีอะไรแล้ว แม้จะครองบอลมากกว่าก็ตาม
4. หลังจากนั้นก็ตามสูตรสำเร็จของ "มูมู่" คือเน้นการรักษาสกอร์มากกว่ากระทุ้งประตูเพิ่ม ว่าแล้วก็ถอด ฆวน มาต้า ออก เพื่อให้ อันเดร์ เอร์เรร่า ลงมาแพ็คเกมรับ ก่อนจะถอดตัวรุกทั้ง "น้องแรช" และ "น้องหมาก" ออกจากสนามหมดเลย เพื่อตั้งรับเต็มรูปแบบ
ผมมองว่าจังหวะเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่ 2 กับคนที่ 3 พี่จ่าแกรีบเปลี่ยนติดกันไปหน่อย ความจริงยังไม่จำเป็นต้องเอา อเล็กซิส ลงมาก็ได้ และควรเก็บโควต้าไว้ใช้ในช่วงทดเจ็บ เพื่อทำลายจังหวะและเวลาของ เชลซี ดีกว่า
.jpg)
5. ปัญหาใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงอยู่ตรงเกมรับเหมือนเดิม - ประตูแรกที่เสียมาจากลูกเตะมุมอีกแล้ว เหตุเพราะประกบตัวกันไม่ดี ขณะที่ประตูตีเสมอ ผู้เล่นของ เชลซี โยนลูกเข้ามาแบบย้อยๆ ซึ่งบอลแม่งลอยโด่งกลางอากาศนานมาก แถมกองหลังในชุดสีแดงอยู่แถวนั้นเป็นฝูง กลับปล่อยให้โดนโหม่งเน้นๆ จนนำมาซึ่งการเสียประตูซะอย่างนั้น
โพสต์โดย : pao
เมื่อ 22 ต.ค. 2561 06:17:27 น. อ่าน 131 ตอบ
0
