เปิดเกมมาทั้งสองทีมต่างมีโอกาสบุกลุ้นประตูกันชนิดหวาดเสียวทั้งคู่ โดยราชันชุดขาว ได้โอกาสก่อนในนาทีที่ 11 จากลูคัส บาซเกวซ ครอสมาถึงศีรษะคาริม เบนเซมา โขกบอลเหินข้ามคาน และโอกาสอีกครั้งจากจังหวะหลุดเดี่ยวของคริสเตียโน โรนัลโด้ แต่คาร์ลอส กาเมนี ยังออกมาปิดมุมได้ทันในนาทีที่ 12 ด้านมาลาก้าได้ลุ้นจากลูกยิงในเขตโทษของชอรี คาสโตร ในนาทีที่16

จากนั้นนาทีที่ 24 เจ้าถิ่นได้รับข่าวร้าย เมื่อมาร์เซโล ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวจากจังหวะปะทะกับฆวนปิ ทำให้ซีเนดีน ซีดานปรับแท็คติกด้วยการส่งอิสโก้ ลงสนามมาเล่นแทน โดยโยกนาโช เฟร์นันเดซเล่นแบ็คซ้าย 

ถัดมากลับเป็นมาลาก้า ที่เริ่มเดินเกมรุกใส่เจ้าถิ่นจนเกือบเป็นประตูอยู่หลายครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธของเคย์เลอร์ นาบาส และผิดพลาดกันเองเป็นส่วนใหญ่ กระทั่งนาทีที่ 35 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮกันลั่น เมื่อโทนี โครส เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวามาเข้าทางเซร์คิโอ รามอสขึ้นโขกเต็มศีรษะชนิดไม่มีใครประกบ บอลลอยหนีมือคาร์ลอส กาเมนีตุงตาข่าย เรอัล มาดริดออกนำ 1-0 

ท้ายครึ่งแรกโลส บลังโกสมาได้ประตูที่สอง เมื่อโทนี โครส เปิดบอลจากลูกตั้งเตะบริเวณริมเส้นฝั่งซายมาเข้าทางเซร์คิโอ รามอส สะกิดบอลโล่งๆเข้าไปไม่เหลือ ราชันชุดขาวออกนำ 2-0 ในนาทีที่ 43 และกลายเป็นประตูที่ 50 ของเจ้าตัวในการลงเล่นลาลีก้า

นาทีที่ 63 ทีมเยือนได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ฮวน คาร์ลอส กระชากแหวกแนวรับราชันชุดขาวเข้าเขตโทษหลุดเข้าไปซัดเต็มเท้าไปติดเซฟเคย์เลอร์ นาบาส ท้ายสุดบอลลอยมาเข้าทางฆวนปิ หาจังหวะซัดเข้าไปตุงตาข่าย มาลาก้าไล่มา 1-2 และเกือบได้ประตูตีเสมอในนาทีต่อมา ทว่าจังหวะตามซ้ำจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของอาดัลเบร์โต้ เปนาราด้า มาให้โชรี คาสโตรไปติดเซฟของเคย์เลอร์ นาบาส

จากนั้นนาทีที่ 74 มาดริดเกือบได้ประตูที่สาม เมื่อแนวรับทีมเยือนจ่ายบอลคืนกลับหลังมาให้คาร์ลอส กาเมนีเล่น ทว่าจอมหนึบแคเมอรูนดันจับบอลพลาดเกือบไหลเข้าประตู แต่ยังดีที่ยังสปีดต้นเร็วพอที่จะสกัดออกได้หวุดหวิด และแม้คริสเตียโน โรนัลโด้ จะมาตามซ้ำจากจังหวะผิดพลาด แต่เจ้าตัวก็ยังปัดไว้ได้ทัน

เวลาที่เหลือไม่มีทีมใตบวกสกอร์เพิ่ม หมดเวลาการแข่งขัน เรอัล มาดริดเฉือนมาลาก้าหวุดหวิด 2-1 ขยับเพิ่มไปมี 43 คะแนน หนีเซบีญา ทีมอันดับ 2 ออกไป 4 คะแนน