โซดาซ่า ดูบอล
Menu

ชนาธิป ซัดโทน ช้างศึก ทำได้ เฉือน บาห์เรน 1-0

โพสต์เมื่อ 10 ม.ค. 2562 22:00:49 น. เข้าชม 461 ครั้ง แจ้งลบ

ชนาธิป สรงกระสินธ์ ซัดประตูสำคัญตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งแรก กลายเป็นประตูชัยช่วย "ช้างศึก" เอาชนะ บาห์เรน 1-0 เก็บสามแต้มอันล้ำค่าเอาไว้ได้ ลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายแบบเต็มตัว 

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย "เอเชียน คัพ 2019" ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 10 มกราคม 2562 ทีมชาติไทย ลงสนามนัดที่สองรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ พบ ทีมชาติบาห์เรน 

ขุนพล "ช้างศึก" ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือรักษาการ เกมที่แล้วพ่ายแพ้ต่อ อินเดีย 1-4 เกมนี้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นและตัวผู้เล่นในบางตำแหน่ง โดยหันมาใช้ปราการหลังตัวกลาง 3 คน พร้อมจัด ธีรศิลป์ แดงดา ยืนกองหน้าคู่กับ อดิศักดิ์ ไกรษร โดยมี ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นตัวทำเกม 

ด้าน บาห์เรน ของกุนซือ มิโรสลาฟ ซูคัป เกมแรกเสมอกับเจ้าภาพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยสกอร์ 1-1 จากการโดนจุดโทษช่วงท้ายเกม โดยเกมนี้มาในระบบ 4-2-3-1 วาง โมฮาเหม็ด มาร์ซูค เป็นหน้าเป้า และมี อาลี มาดาน, โมฮาเหม็ด มาร์ฮูน และซาเยด ซาอีด เป็น 3 แนวรุก 

ครึ่งเวลาแรกทั้งสองทีมเล่นกันได้อย่างสูสี แม้บาห์เรนจะครองบอลได้มากกว่าในช่วง 10 นาทีแรก แต่หลังจากนั้นเป็นทีมชาติไทยที่เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้และครองบอลบุกเข้าใส่บาห์เรนได้เยอะกว่าเล็กน้อย 

"ช้างศึก" มีโอกาสจากจังหวะที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จ่ายทะลุช่องให้ ธีรศิลป์ แดงดา หลุดไปในกรอบเขตโทษ แต่จังหวะที่กำลังจะยิงโดนสกัดไว้ได้ก่อน ถัดมายังมีโอกาสลุ้นประตูจากอดิศักดิ์ ไกรษร ที่เกือบจะได้ง้างเท้ายิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ แต่โดนกองหลังบาห์เรนมาสกัดไว้ได้อีก 

บาห์เรน อาศัยความสูงใหญ่ของผู้เลนคอยเล่นงานแนวรับไทยจนปั่นป่วน บรรดากองหลังตัวกลางทั้ง 3 คน อย่าง อดิศร พรหมรักษ์, สุพรรณ ทองสงค์ และพรรษา เหมวิบูลย์ โดนใบเหลืองกันไปคนละใบ หมดเวลาการแข่งขัน 45 นาทีแรก บาห์เรน เสมอ ไทย 0-0 

ครึ่งเวลาหลังทีมชาติไทยเริ่มต้นกันได้อย่างคึกคักเปิดฉากบุกอย่างต่อเนื่อง น.47 โอกาสทองจาก ทริสตอง โด ที่วิ่งมาเก็บตกลูกเปิดที่เลยมาเสาสอง แต่เจ้าตัววิ่งมายิงบอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย 

แต่แล้วความพยายามของทีมชาติไทยมาประสบความสำเร็จ น.58 มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่อดิศักดิ์ ไกรษร เปิดไซต์ก้อยมาให้ทริสตอง โด หลุดมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนปาดเข้ากลางบอลแฉลบกองหลังบาห์เรน มาเข้าทาง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ซัดด้วยซ้ายแสกหน้านายทวารคู่แข่งเข้าไปอย่างสวยงาม 

น.71 ไทย เกือบได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จ่ายทะลุช่องมาให้ อดิศักดิ์ ไกรษร หลุดเข้าไปยิงเล่นทางผ่านมือนายทวารบาห์เรนไปแล้วแต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

ช่วง 10 นาทีสุดท้าย บาห์เรน โหมบุกใส่ทีมชาติไทยอย่างหนักเพื่อทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่แนวรับทีมช้างศึกยังเล่นกันได้อย่างมีระเบียบวินัยทำให้คู่แข่งหาทางเจาะเข้าทำประตูกันอย่างยากลำบาก 

น.89 ทีมชาติไทยเกือบหนีห่าง 2-0 อีกครั้ง จากจังหวะทำชิ่งกันของชนาธิป มาให้ ธีรศิลป์ กระชากบอลมาคนเดียวหลุดมาในกรอบเขตโทษ แต่ยิงไปติดปลายมือผู้รักษาประตูบาห์เรนข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย 

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ทีมชาติไทย เฉือนชนะ บาห์เรน ไปด้วยสกอร์ 1-0 เก็บสามแต้มอันล้ำค่าเอาไว้ได้ ขึ้นไปมี 3 แต้ม ส่วน บาห์เรน มี 1 คะแนนเท่าเดิม 

โปรแกรมนัดต่อไป "ช้างศึก" ทีมชาติไทย จะลงสนามพบเจ้าภาพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 14 มกราคม 2562 ที่ฮาซซา บิน ซาเยด สเตเดียม เมืองอัลไอน์ แข่งขันเวลา 23.00น. ตามเวลาไทย เป็นการลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบเต็มตัว 

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ทีมชาติบาห์เรน : ซาเยด ชับบาร์ ฮาเชม (GK), ซาเยด เรดฮา อิซา, ฮาหมัด อัล ชัมซาน, วาลีด อัล ฮายาม, อาห์เหม็ด จูม่า, อับดุลวาฮับ อาลี อัลซาฟี, คามิล อัล อาสวาด, อาลี มาดาน, โมฮาเหม็ด มาร์ฮูน, ซาเยด ซาอีด, โมฮาเหม็ด มาร์ซูค 

ทีมชาติไทย : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), สุพรรณ ทองสงค์, พรรษา เหมวิบูลย์, อดิศร พรหมรักษ์, ธีราทร บุญมาทัน, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ทริสตอง โด, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, อดิศักดิ์ ไกรษร

แสดงความคิดเห็น

facebook